สหราชอาณาจักร (UK) เปิดเผยยอดคำร้องขอย้ายถิ่นฐานสำหรับชาวจีน ฮ่องกง โดยพบว่ามีจำนวนถึง 9 หมื่นราย นับตั้งแต่เปิดให้ยื่นตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา (14 ธ.ค. 2564) สหราชอาณาจักร (United Kingdom – UK) เปิดเผยยอดคำร้องขอย้ายถิ่นฐานสำหรับชาวจีนในเขตพื้นที่ ฮ่องกง โดยพบว่ามีการดำเนินการมากถึง 90,000 รายด้วยกัน ซึ่งเป็นจำนวนรวมตั้งแต่เปิดให้สามารถดำเนินการได้ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ภายหลังจากที่ทางรัฐบาลจีนได้มีการปราบปรามผู้ประท้วงในพื้นที่ดังกล่าว
Liz Truss, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหราชอาณาจักร
ได้เปิดว่า สำนักงานกระทรวงต่างประเทศนั้นได้รับคำร้องสำหรับการย้ายถิ่นฐานจากผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ฮ่องกง และถือหนังสือเดินทางสัญชาติอังกฤษ (โพ้นทะเล) เป็นจำนวนเกือบถึง 9 หมื่นกว่ารายด้วยกัน
“ตั้งแต่สิ้นเดือนกันยายน 2564 เป็นต้นมา ได้มีผู้ทำการยื่นคำร้องรับ Visa ภายใต้แนวทางดังกล่าวถึง 88,000 ราย ในฐานะตัวแทนของรัฐบาล ฉันขอยินดีต้อนรับพวกเขาสู่สหราชอาณาจักร”
ทางการของสหราชอาณาจักร ได้ประมาณการว่า ภายในปีแรกของการดำเนินการแผนการนี้จะมีชาวฮ่องกงยื่นเรื่องขอย้ายถิ่นฐานถึง 154,000 ราย และภายใน 5 ปีต่อมานั้นจะสูงถึง 322,000 รายด้วยกัน
โดยแผนการดังกล่าวนี้ได้เริ่มใช้งาน ภายหลังจากที่ทางรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ประกาศถึงการไม่รับรองการใช้งานหนังสือเดินทางประเภท BN(O) เป็นเอกสารที่ถูกตามกฎหมายอีกต่อไป รวมไปถึงสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชน และการต่อต้านปราบปรามผู้ประท้วงในพื้นที่ฮ่องกงที่เป็นชนวนส่วนให้มีเปิดให้การดำเนินการ และขยายระยะเวลาเพิ่มเติมนี้ขึ้นมา
ซึ่งหนังสือเดินทางประเภท BN(O) นั้นถือว่าเป็นเอกสารสิทธิพิเศษที่ชาวฮ่องกงได้รับหลังจากที่สหราชอาณาจักรได้คืนพื้นที่ฮ่องกงให้กับทางการจีนเมื่อปี 1997 รวมไปถึงสิทธิในการยื่นคำร้องขอย้ายถิ่นฐานเพื่อรับสัญชาติใหม่ด้วยเช่นกัน
มอลตา (Malta) ได้ประกาศผ่านร่างกฎหมายรับรองการใช้งาน กัญชา ได้อย่างถูกกฎหมาย โดยถือว่าเป็นประเทศแรกในสหภาพยุโรปที่ใช้งานกฎหมายนี้ วันนี้ (15 ธ.ค. 2564) ประเทศ มอลตา (Malta) ได้ประกาศผ่านร่างกฎหมายรับรองการใช้งาน กัญชา ได้อย่างถูกกฎหมาย โดยได้รับเสียงโหวตเห็นด้วย 36 เสียงจากรัฐสภา (ไม่เห็นด้วยอยู่ที่ 27 เสียง) ทำให้มอลตาถือว่าเป็นประเทศแรกในสหภาพยุโรป (EU) ที่มีการบังคับใช้งานกฎหมายรูปแบบนี้
โดยกฎหมายดังกล่าวนั้น
เปิดให้สามารถทำการครอบครองกัญชาภายใต้การเพาะปลูก และใช้งานแบบส่วนตัวได้ ผู้ใหญ่จะสามารถทำการพกพาได้ไม่เกิน 7 กรัม และปลูกที่บ้านได้ไม่เกิน 4 ต้น แต่ทั้งนี้แล้วการสูบกัญชาในพื้นที่สาธารณะ และต่อหน้าเด็กเยาวชนนั้นยังคงผิดกฎหมาย
Owen Bonnici, รัฐมนตรีสำหรับด้านความเท่าเทียม, นวัตกรรม, การวิจัย และผู้ประสานงานแผนดำเนินการหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้กล่าวถึงการผ่านร่างกฎหมายนี้ว่า “มันถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่จะสามารถหยุดผู้ใช้กัญชารายย่อยจากการต้องโทษทางกฎหมาย และจะช่วยจำกัดการค้ายาเสพติดด้วยการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้เหล่านี้ว่าพวกเขาสามารถจะเข้าถึงกัญชาได้อย่างปลอดภัย และถูกกฎหมาย”
ทั้งนี้แล้ว Bernard Grech, หัวหน้าพรรคชาตินิยม (Nationalist Party) ที่โหวตไม่เห็นด้วยกับกฎหมาย ทั้งที่ได้มีการออกตัวสนับสนุนก่อนหน้านี้ ได้โต้แย้งว่า “กฎหมายดังกล่าวนั้นจะไปเสริมการค้ายาเสพติดอย่างผิดกฎหมาย เนื่องด้วยองค์กรอาชญกรรมต่าง ๆ อาจจะฉวยโอกาสในตรงนี้” พร้อมกันนี้บรรดาคู่ตรงข้ามกับกฎหมายดังกล่าวได้มีการเรียกร้องให้ George Vella ประธานาธิบดีของมอลตา ไม่ลงนามบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว (ที่ถือว่าเป็นขั้นตอนพิธีกรรมปิดท้าย)
การผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวของมอลตานั้นถือว่าเป็นก้าวแรกของบรรดาประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปในการเปิดให้มีการใช้งานกัญชาได้อย่างถูกกฎหมาย โดยนอกจากมอลตาแล้วนั้นก็ยังมีประเทศอื่น ๆ ได้แก่ ลักเซมเบิร์ก, เยอรมันนี และสวิสเซอร์แลนด์ ที่ได้ประกาศถึงการเตรียมดำเนินการตั้งตลาดการค้าขายอย่างถูกกฎหมาย ในขณะที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ที่ได้รับชื่อเสียงในด้านนี้ยังคงนับว่ากัญชาเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย หากแต่ว่าเปิดทางให้สามารถใช้งานในพื้นที่จำกัดได้เท่านั้น ทางด้านของอิตาลีนั้นก็จะการเปิดให้มีการทำประชามติในประเด็นดัวกล่าวภายในปีหน้า
ในเวลานี้ การเปิดรับรองการใช้งานกัญชาตามกฎหมายนั้นเริ่มมีการบังคับใช้งานในบางประเทศกันแล้ว อาทิ อุรุกวัย (ประเทศแรกของโลกที่เริ่มบังคับใช้ในปี 2013), แคนาดา (2018) แอฟริกาใต้, เม็กซิโก, จาไมก้า, โปรตุเกส และบางรัฐในสหรัฐอเมริกา
จากการสำรวจพบเพียงไม่กี่ต้นในหย่อมป่าดิบชื้นที่ถูกรบกวน ซึ่งรายล้อมไปด้วยสวนยางและสวนผลไม้ สุ่มเสี่ยงที่จะถูกแผ้วถางจนสูญพันธุ์ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องช่วยกันอนุรักษ์ไว้ ก่อนที่จะไม่เหลือให้ชนรุ่นหลังได้ชื่นชมและศึกษา นอกจากเหลืองปิยะรัตน์แล้ว ในประเทศไทยยังพบพืชสกุล 𝙋𝙝𝙖𝙚𝙖𝙣𝙩𝙝𝙪𝙨 อีก 1 ชนิด คือ หัวลิง ซึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า 𝙋𝙝𝙖𝙚𝙖𝙣𝙩𝙝𝙪𝙨 𝙡𝙪𝙘𝙞𝙙𝙪𝙨 Oliv. โดยพบที่จังหวัดนราธิวาสและยะลา
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก อยุธยา-Ayutthaya Station ได้โพสต์ข้อความเปรียบเทียบสถานการณ์น้ำท่วมอยุธยา เมื่อช่วงวันที่ 19 ต.ค. และ 25 ต.ค. ระบุว่า “อยุธยาน้ำลงแล้วค่ะ ลงจากหลังคาไปอยู่ตัวบ้านค่ะ”
เครดิต : รีวิวซีรี่ย์เกาหลี | ลายสัก | รีวิวร้านอาหาร | โทรศัพท์มือถือ ราคาถูก | เรื่องย่อหนัง